วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ไมโครซอฟท์เตรียมปล่อยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรี
ประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์ว่า ไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัส Morro เวอร์ชันล่าสุดในกลุ่มพนักงาน คาดว่าเวอร์ชันดังกล่าวจะผ่านการทดสอบจนสามารถเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปร่วมทดสอบในนาม Morro เบต้าเวอร์ชัน (beta) ในเร็ววันนี้
ประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์ระบุว่าซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีของไมโครซอฟท์จะเปิดให้ลูกค้าไมโครซอฟท์ทุกคนดาวน์โหลดที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกรอบเวลาในการให้บริการที่แน่นอนได้ในขณะนี้
ทันทีที่ข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์แพร่กระจายออกไป มูลค่าหุ้นของไซแมนเทคดีดตัวลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ที่ตลาดแนสแดค เช่นเดียวกับหุ้นแมคอาฟีที่ลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์ ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สวนทางกับมูลค่าหุ้นไมโครซอฟท์ที่เพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์
Morro เป็นชื่อรหัสบริการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของไมโครซอฟท์ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอันดับหนึ่งของโลก นักลงทุนหวั่นเกรงว่าการให้บริการ Morro ฟรีของไมโครซอฟท์จะส่งผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์แอนตี้ไวรัสเบอร์หนึ่งและสองอย่างไซแมนเทคและแมคอาฟี รวมถึงค่ายแอนตี้ไวรัสรายอื่นๆ ซึ่งมีรายได้หลักจากการจำหน่ายซอฟต์แวร์กันภัยร้ายจากเหล่านักโจรกรรมข้อมูลซึ่งจำเป็นต้องติดตั้งในเครื่องพีซีทุกเครื่อง
ไมโครซอฟท์เคยให้ข้อมูลว่า Morro จะให้บริการฟีเจอร์พื้นฐานเพื่อให้คอมพิวเตอร์พีซีมี"ภูมิคุ้มกัน"สำหรับต่อสู้กับไวรัสซึ่งแพร่ระบาดในวงกว้าง ซึ่งหลายฝ่ายนำไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์พื้นฐานของไซแมนเทคและแมคอาฟีสำหรับผู้บริโภคโลว์เอนด์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,400 บาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม รายได้หลักของไซแมนเทคและแมคอาฟีไม่ได้มาจากกลุ่มโลว์เอนด์ แต่มาจากชุดรักษาความปลอดภัยซึ่งมีความสามารถในการป้องกันภัยฟิชชิ่ง หรือการลวงให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูลความลับลงในเว็บไซต์ปลอม ด้วยการให้ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูล ไฟร์วอลล์ ปกป้องรหัสผ่าน และสำรองข้อมูล
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการแอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์ ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์เคยแหย่เท้าลงมาในตลาดนี้ด้วยการส่ง "OneCare" ซึ่งครั้งหนึ่งไมโครซอฟท์เคยให้บริการแบบคิดค่าใช้จ่ายแต่ไม่เป็นที่นิยม โดย Morro นั้นถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแผนของ OneCare ซึ่งในขณะนั้นมีการกำหนดกรอบเวลาไว้ที่ปลายปี 2009
เชื่อว่านักวิเคราะห์ทั้งหลายกำลังรอพบกับ Morro เวอร์ชันทดลอง เพื่อจะได้รับรู้ฟีเจอรที่แท้จริงว่าจะสามารถแข่งขันกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสในตลาดขณะนี้ได้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ประกาศว่าจะพัฒนาให้ Morro สามารถป้องกันซอฟต์แวร์อันตรายได้หลายรูปแบบ ทั้งไวรัส สปายแวร์ รูทคิตส์ และโทรจัน
แน่นอนว่าตัวแทนทั้งไซแมนเทคและแมคอาฟีต่างออกมาแสดงความเห็นว่า Morro ไม่ใช่ภัยคุกคามที่สามารถเขย่าบัลลังก์ในตลาดแอนตี้ไวรัสได้ง่ายๆ เจนิซ ชาฟฟิน (Janice Chaffin) ประธานฝ่ายลูกค้าคอนซูเมอร์ของไซแมนเทคถึงกับบอกว่า Morro เป็นร่างทรงของ OneCare ที่ไมโครซอฟท์จะโละออกจากร้าน โดยบอกว่าชุดรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบคือสิ่งที่ผู้บริโภคทุกวันนี้ต้องการ เพื่อการถูกปกป้องแบบครบวงจร ฝ่ายจอริส เอเวอร์ส (Joris Evers) ประชาสัมพันธ์แมคอาฟีกล่าวในเชิงว่าแมคอาฟีสามารถยืนหยัดได้สวยงามท่ามกลางซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสฟรีหลากชนิดอยู่แล้ว หากเพิ่ม Morro ขึ้นมาอีกรายก็คงไม่ต่างกัน
ไม่มีรายงานความเห็นจากประชาสัมพันธ์เทรนด์ไมโคร (Trend Micro) บริษัทแอนตี้ไวรัสอันดับ 3 ของสหรัฐฯ
Company Related Links : Microsoft
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ญี่ปุ่นลุยไวแม็กซ์เร็วที่สุดในโลก
นอกจากการเริ่มให้บริการไวแมกซ์เต็มตัวเป็นรายแรกในญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ทั้งสองยังร่วมกันเปิดตัวชิปเครือข่ายข้อมูลไร้สายความเร็วสูงไวแมกซ์ (WiMAX) ของอินเทลสำหรับติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งทันทีที่บริษัท UQ ออกมาประกาศว่าพร้อมให้บริการไวแมกซ์ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกว่า 13 รายก็พร้อมใจกันออกคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อไว้ใช้งานกับเทคโนโลยี WiMAX แล้ว
ไวแมกซ์ (WiMAX) ย่อมาจากคำว่า Worldwide Interoperability for Microwave Access หรือมาตรฐาน IEEE 802.16 คือเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงระยะไกล มีรัศมีทำการกว้างถึง 30 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงสุด 75 เมกะบิตต่อวินาที สามารถส่งสัญญาณได้แม้มีสิ่งกีดขวาง เช่น ต้นไม้หรืออาคาร และบนรถที่มีการเคลื่อนที่
หนึ่งในนั้นคือระบบเนวิเกเตอร์สำหรับนำทางในรถยนต์ของฮิตาชิ มาพร้อมชิปไวแมกซ์ของอินเทลที่ทำให้ผู้ใช้สามารถดึงข้อมูลจากเครือข่ายไวแมกซ์ในขณะรถวิ่ง นอกจากนี้ยังมีโน้ตบุ๊กใหม่ของเอ็นอีซีนาม "LaVie Light BL350" โน้ตบุ๊กไวแมกซ์ซึ่งใช้โปรเซสเซอร์อะตอม (ATOM) ของอินเทล มาพร้อมแอลซีดี 10.1 นิ้ว ซึ่งเอ็นอีซีมีแผนจะวางตลาดอย่างเป็นทางการวันที่ 11 มิถุนายนนี้
การทำให้บริการไวแมกซ์เกิดขึ้นได้จะต้องใช้ชิปสำหรับรับสัญญาณคลื่นความถี่พิเศษ และโครงข่ายกระจายสัญญาณ จุดนี้อินเทลระบุว่า กลุ่มทุนของอินเทลได้เทเงินทุนกว่า 43 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยให้ UQ สามารถสร้างเครือข่ายให้บริการแก่ลูกค้าในประเทซญี่ปุ่นได้ โดยเครือข่ายข่ายขณะนี้ครอบคลุมเมืองโตเกียวทั้งเมือง ส่วนเมืองใกล้เคียงอย่างคาวาซากิและโยโกฮามาจะต้องรออย่างช้าคือสิ้นปีนี้ โดย UQ ระบุว่ามีแผนขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่อาศัยของประชากรกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ในปี 2012 การเปิดตัวบริการเครือข่ายไวแมกซ์ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดศึกแข่งขันอย่างเต็มตัวระหว่างโอเปอเรเตอร์เบอร์หนึ่งและเบอร์สองแดนปลาดิบอย่างเอ็นทีทีโดโคโม (NTT DoCoMo) และเคดีดีไอ (KDDI) โดย UQ นั้นได้รับการสนับสนุนจากเคดีดีไอในขณะที่โดโคโมมีแผนให้บริการเครือข่ายข้อมูลไร้สายความเร็วสูง HSUPA แทน ความเร็วในการอัปโหลดข้อมูลคือ 5.7Mbps ความเร็วในการดาวน์โหลด 14Mbps ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวภายในปีนี้เช่นกัน
ท่ามกลางการแข่งขันสุดมันส์ ประเทศไทยกลับไม่มีวี่แววการออกใบอนุญาตให้บริการไวแมกซ์ซึ่งใช้คลื่นความถี่พิเศษที่ผู้ให้บริการต้องขออนุญาตจากรัฐบาลประเทศนั้นๆ ทั้งที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเวียดนามหรือมาเลย์เซียล้วนได้รับไฟเขียวและพร้อมให้บริการในเร็ววันนี้แล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2552 19:52 น.
วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Bing.com เสิร์ชอัจฉริยะตัวจริง ?
เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอของไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเสิร์ชเอ็นจิ้น ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ม่ีชื่อว่า Bing.com ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่า มันสามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
"แม้วันนี้เสิร์ชเอ็นจิ้นจะได้ช่วยนำพาผู้ใช้ให้ไปพบเว็บไซต์ และข้อมูลข่าวสารที่เหมาะสมได้ก็ตาม แต่พวกมันกลับไม่ได้ช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้ข้อมูลข่าวสารที่พบได้ดีมากนัก (แค่ไปพาไปพบแหล่งข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยให้การตัดสินใจเลือกใช้ข้อมูลเหล่านั้นง่ายเท่าที่ควร)" สตีฟ บอลเมอร์ กล่าว "เมื่อเราเริ่มต้นสร้าง Bing เราพยายามทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ จากการใช้เว็บ"
ผลการศึกษาเกี่ยวกับการใช้เสิร์ชของ ComScore ระบุว่า การเสิร์ชเว็บที่ไร้ค่าเนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจนั้นมีมากถึง 30% ซึ่งผลจากการศึกษาดังกล่าว ไมโครซอฟท์ได้ตั้งทีมพัฒนา "decision engine" (กลไกช่วยในการตัดสินใจ) ขึ้นมา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้พบกับข้อมูลที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ตัวอย่างเช่น ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อกล้องดิจิตอลได้พบกับรุ่นที่ถูกใจในราคาที่ดีที่สุด ตลอดจนการจองตั๋วเครื่องบิน หรือค้นหาภัตตาคารที่สะดวกง่ายดายกว่า โดยอ้างอิงผลลัพธ์ที่คล้ายกับสิ่งที่ได้จากค้นพบก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ได้คำตอบที่ดีกว่า และใกล้เคียงมากขึ้น ซึ่งในรายละเอียดของอินเตอร์เฟซจะช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจกับสิ่งที่ค้นพบได้ง่ายขึ้น สมมติคุณกำลังค้นหารถยนต์ที่ต้องการซึ้อไว้สักคันหนึ่ง ที่ด้านซ้ายของหน้าผลลัพธ์ จะแสดงหมวดต่างๆ (categories) ที่คลิ้กเลือกได้ อย่างเช่น ปัญหา รีวิว และตัวแทนจำหน่าย โดยระบบจะคำนวณและประเมินให้ว่า ผู้ใช้น่าจะต้องการทราบอะไรบ้างจากสิ่งที่ค้นหา สำหรับ Bing.com จะเปิดให้บริการทั่วโลกในวันพุธที่ 3 มิถุนายน ศกนี้
Tags: microsoft bing search engine เสิร์ช เอ็นจิ้น ไมโครซอฟท์