***ริมกำไรลดฮวบ 47%
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนฮิตแบล็กเบอรี่ (บีบี) ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปีการเงิน 2011 ของริม (มิถุนายน-สิงหาคม 2011) ปรากฏว่ากำไรของริมลดลงถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ขณะที่รายได้รวมก็น้อยลง 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสต้นปี
ริมประกาศว่ากำไรไตรมาสที่ผ่านมาของบริษัทมีมูลค่า 497 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท) ลดลงจากที่ริมเคยทำได้ 797 ล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว (ราว 2.39 หมื่นล้านบาท) รายได้รวมตลอด 3 เดือนคือ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าราว 15% แต่คิดเป็นสัดส่วนลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2010
เฉพาะตัวเลขเงินสดสำรอง ริมประกาศว่าลดลงเหลือ 1,400 ล้านเหรียญหลังจากที่ริมต้องส่งเงิน 1,500 ล้านเหรียญให้บริษัทอเมริกันอย่าง Nortel ในเรื่องลิขสิทธิเทคโนโลยี
ทั้งหมดนี้ จิม บาลซิลลี (Jim Balsillie) ซีอีโอร่วมของริมระบุว่า ริมยังสามารถไปได้ดีกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการใหม่ BlackBerry 7 ในทุกตลาดทั่วโลก โดยสามารถจัดส่งสมาร์ทโฟนบีบีได้ราว 10.6 ล้านเครื่องตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่ายอดจัดส่งสินค้าของริมนั้นน้อยลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการผลักดัน BlackBerry 7 สู่ตลาดองค์กร ก่อนที่ริมจะนำระบบปฏิบัติการ QNX มาใช้ในบีบีรุ่นถัดไป
สำหรับแท็บเล็ตแบรนด์บีบีอย่างเพลย์บุ๊ก ผู้บริหารริมระบุว่าสามารถจำหน่ายจัดส่งไปได้เพียง 200,000 เครื่องในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา น้อยกว่าช่วงไตรมาสก่อนหน้าที่จัดส่งไปราว 500,000 เครื่อง ทำให้รายได้หลักของริมมาจากสมาร์ทโฟนบีบีระบบปฏิบัติการ BlackBerry 7 สะท้อนความต้องการในตลาดที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง
***อาจหั่นราคาเพลย์บุ๊ก
ความเป็นไปได้ในการลดราคาเพลย์บุ๊กเพื่อระบายสินค้าคงคลังของริมถูกตีความจากคำพูดของไมค์ ลาซาริดิส (Mike Lazaridis) ซีอีโอร่วมอีกรายของริม ซึ่งระบุว่าริมกำลังจะสร้างสรรค์โครงการพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจเพื่อผลักดันยอดขายแท็บเล็ตของริมแบบก้าวกระโดด จุดนี้สื่อต่างประเทศเชื่อว่าริมอาจปรับลดราคาจำหน่ายเพลย์บุ๊กลงตามรอยเอชพี (Hewlett-Packard) ซึ่งหั่นราคาแท็บเล็ตของตัวเองอย่างทัชแพด (TouchPad) ลงเหลือราคาเริ่มต้นที่ 99 เหรียญ (ราว 3,000 บาท) หลังจากประกาศแผนเลิกพัฒนาทัชแพดรุ่นต่อไปอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าของแผนลดราคาแท็บเล็ตบีบีในขณะนี้ โดยในร้านออนไลน์ของริม เพลย์บุ๊กยังคงวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 499 เหรียญ (สำหรับรุ่น 16GB) ขณะที่รุ่น 32GB ราคา 599 เหรียญ และรุ่น 64GB ราคา 699 เหรียญ
ยอดจัดส่งเพลย์บุ๊ก 200,000 เครื่องถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตเจ้าตลาดอย่างไอแพด (iPad) โดยไตรมาสที่ผ่านมา แอปเปิลระบุว่าสามารถจำหน่ายไอแพด 2 ได้มากถึง 9.25 ล้านเครื่อง ที่น่าสนใจคือตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขจำหน่ายจริงสู่มือผู้ใช้ ไม่ใช่ยอดจัดส่งที่แปลว่าอาจมีบางสินค้าค้างอยู่ในสต็อคเพื่อรอการจำหน่ายต่อไป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ธุรกิจแท็บเล็ตของริมนั้นมีโอกาสเป็นต่อในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อริมสามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ QNX ในปี 2012 เพลย์บุ๊กซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกันจะมีโอกาสกลายเป็นกระแสอีกครั้ง สำหรับความเป็นไปได้ว่าริมจะลดราคาเพลย์บุ๊กลงเท่าใดนั้นยังไม่มีข้อสรุป เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ราว 150 เหรียญสหรัฐ ตามที่ร้านเบสต์บาย (Best Buy) ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอเมริกันเคยจัดโปรโมชันลดราคาเพลย์บุ๊กลง 50-150 เหรียญในช่วงวันแรงงานอเมริกันเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ครั้งนั้น เบสต์บายตั้งใจระบายเพลย์บุ๊กรุ่น 64GB ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกลดราคาลงมากที่สุด โดยลดเหลือ 549.99 เหรียญ จากเดิมราคา 700 เหรียญ ขณะที่รุ่น 16GB ถูกลดราคาลง 50 เหรียญเหลือ 449.99 เหรียญ เช่นเดียวกับรุ่น 32GB ที่จะลดราคา 50 เหรียญเหลือ 549.99 เหรียญ
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน ริมเชื่อว่ายอดขายรวมจะมีอัตราเติบโต 27-30% บนยอดขายรวมที่คาดว่าจะทะลุ 5,300-5,600 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ 13.5-14.5 ล้านเครื่อง
Company Related Link :
RIM
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กันยายน 2554 07:59 น.