วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

ไปดูต้นไม้อัจฉริยะ "โต้ตอบกับเจ้าของได้"

       ทีมวิจัยมหาวิทยาลัย Keio University โชว์ระบบที่ทำให้ต้นไม้มีชีวิตชีวามากกว่าเคย เพราะระบบนี้จะทำให้ต้นไม้ขยับกิ่งแสดงท่าทางรับรู้เรื่องราวที่เราเล่าให้ฟังได้ รวมถึงสะบัดใบเพื่อโต้ตอบกับผู้คนบริเวณนั้นได้ง่ายๆ
   
       ระบบอัจฉริยะที่ว่านี้ประกอบด้วยมอเตอร์ 2 กลไก ซึ่งเป็นเบื้องหลังที่ทำให้ต้นไม้เคลื่อนไหวได้ โดยมอเตอร์นี้จะทำงานอิงตามคำสั่งจากไมโครโฟนและเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เป็นผลให้ต้นไม้สามารถตอบสนองการเคลื่อนไหวของผู้คนบริเวณรอบๆได้

ทีมวิจัยทดสอบระบบต้นไม้อัจฉริยะนี้กับต้นไม้หลายชนิดและหลากสภาวะแวดล้อม ผลคือต้นไม้อัจฉริยะนี้สามารถเคลื่อยไหวได้หลายรูปแบบตามอารมณ์ความเคลื่อนไหวที่ตรวจจับได้ แถมยังสามารถใช้งานได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร ขณะเดียวกันก็สามารถใช้ได้ทั้งกับต้นไม้ขนาดเล็กและใหญ่ (ชมการเคลื่อนไหวของต้นไม้อัจฉริยะนี้ได้จากวิดีโอด้านล่าง)

นักวิจัยมหาวิทยาลัย Keio University ระบุว่าระบบดังกล่าวถูกพัฒนาเพื่อให้ต้นไม้สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ รวมถึงการแสดงอารมณ์ของต้นไม้ในรูปแบบใหม่ ซึ่งจากการพัฒนามาร่วมปี ยังไม่พบต้นไม้ใดที่เสียหายเพราะระบบนี้
    
Company Related Link :
Keio U


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2555 16:15 น.

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2555

ชมโฉม “แว่นอัจฉริยะ” จากกูเกิล

กูเกิล (Google) เปิดตัวโปรเจกต์ล่าสุดอย่างเป็นทางการในนาม “Project Glass” ประเดิมโชว์ต้นแบบแว่นตาเทคโนโลยี augmented reality หรือ AR แก่สาธารณชน ซึ่งผู้ใส่จะได้เห็นข้อมูลแบบอิงสถานที่ในแบบเรียลไทม์ ที่สำคัญคือผู้ใส่สามารถเอ่ยปากออกคำสั่งให้แว่นบันทึกภาพวิดีโอ ถ่ายรูป และรับส่งข้อความ เครือข่ายสังคมของกูเกิล “กูเกิลพลัส (Google+)” ถูกใช้เป็นเวทีเปิดเผยรายละเอียด Project Glass อย่างน่าสนใจ เพราะทีม Google X ผู้พัฒนาโปรเจกต์นี้ต้องการประชาสัมพันธ์ให้นักพัฒนาร่วมกันสร้างสรรค์ข้อมูลสำหรับแว่นอัจฉริยะนี้ผ่านเครือข่ายสังคมของกูเกิล ที่ผ่านมาโครงการนี้ถือเป็นความลับซึ่งกูเกิลยังไม่เคยออกมายืนยันความจริงแม้จะมีข่าวลือหนาหูเพียงไร ทีมงานกูเกิลระบุว่า การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะต้องการแลกเปลี่ยนความรู้ที่หลากหลายกับทุกคน โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดความคืบหน้าของเรื่องราวและแนวคิดแว่นตาอัจฉริยะนี้จากกูเกิลได้ ขณะเดียวกันก็สามารถร่วมเสนอแนวคิดต่อกูเกิลได้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่กูเกิลพัฒนาโครงการพัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะที่สวมใส่ได้ หรือ wearable computing ตัวแว่นตาประกอบด้วยเลนส์โปร่งใส หรือ see-through lens ที่สามารถรับข้อมูลแบบสตรีมมิ่งแก่ผู้ใช้ได้อย่างไร้รอยต่อ ความสามารถสำคัญของแว่นนี้คือการทำงานด้านมัลติมีเดียที่สามารถรองรับคำสั่งเสียง ซึ่งตรงกับข่าวลือที่ถูกเผยแพร่มาก่อนหน้านี้ นิก บิลตัน (Nick Bilton) ผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทมส์เคยรายงานว่า หนึ่งในผู้ที่ได้ทดลองใช้งานแว้นอัจฉริยะนี้บรรยายว่าแว่นจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ไม่ต้องล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา แต่สามารถกดปุ่มที่แว่นตาเพื่อถ่ายภาพ หรือรับข้อมูลได้ทันใจ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2555 12:27 น.

อินเทลจัด 'อะเมซิ่งพีซี' คาราวานสอนคอมพ์รากหญ้า

อินเทลมาแปลกเติมหมวดความรู้ในโครงการอะเมซิ่ง พีซี ใส่โปรแกรมอีเลิร์นนิ่งสอนทักษะใช้คอมพ์ 'อีซี่ สเต็ปส์' อบรมเข้ม 2 วัน 6 หลักสูตร พร้อมจับมือพันธมิตรแบรนด์พีซีดัง 7 ราย พ่วงภาครัฐ กระทรวงไอซีทีและกสทช. เข้าหนุน หวังเจาะตลาดรากฐานในต่างจังหวัด 15 ล้านครัวเรือนที่ยังไม่มีคอมพ์ใช้ นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า อินเทลจับมือกับกระทรวงไอซีที ,คณะกรรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.),สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม (ไอซีทีไอ) และพันธมิตรทางธุรกิจทั้งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ 7แบรนด์ดัง ประกอบด้วย เอเซอร์ เอซุส ซัมซุง เดลล์ เอชพี เลอโนโวและโตชิบา ผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ทีโอที เอไอเอสและ 3บีบี ร่วมมือกันภายใต้โครงการ อะเมซิ่ง พีซี ซึ่งเป็นโครงการที่อินเทลจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 6 ความพิเศษของโครงการอะเมซิ่ง พีซีในปีนี้ อยู่ที่จะเป็นปีแรกที่เน้นการให้ความรู้ชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัดในรูปแบบคาราวานความรู้ที่มีถึง 7 คาราวาน ที่จะลงไปยังพื้นที่ในระดับตำบล 400 แห่งใน 67 จังหวัดทั่วประเทศ โดยคาดว่าโครงการนี้จะทำให้กว่า 4 แสนครัวเรือนทั่วประเทศมีโอกาสเข้าถึงและได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ นายเอกรัศมิ์กล่าวว่าจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า สัดส่วนของครัวเรือนในประเทศไทยที่มีกว่า 19.65 ล้านครัวเรือนนั้น มีถึง 15.16 ล้านครัวเรือนหรือ 77% ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้งาน เมื่อเจาะลึกลงไปว่า ทำไมถึงไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้งานนั้น มีถึง 59% ที่ระบุว่า ไม่เห็นความจำเป็น สามารถใช้งานจากที่อื่นได้ 15% ใช้ไม่เป็น 12% ขณะที่ปัจจัยเรื่องราคาแพงนั้นมีเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เวลานี้รายได้ของครัวเรือนในประเทศไทยมีมากเพียงพอที่จะซื้อหาคอมพิวเตอร์มาใช้แล้ว แตกต่างจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ปัจจัยราคามีสัดส่วนที่สูงมาก


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2555 10:35 น.

“รถบินได้” พร้อมขายปีหน้า

รถบินได้จะไม่ได้อยู่แค่ในนิยายวิทยาศาสตร์สติเฟื่องอีกต่อไป เพราะบริษัทอเมริกันนาม Terrafugia Inc. ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเอพีว่าต้นแบบรถบินได้นั้นผ่านขั้นตอนการทดสอบมาแล้วอย่างสมบูรณ์ ทำให้แผนการวางจำหน่ายรถบินได้ในปี 2013 ของบริษัทกำลังจะเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ รถบินได้นี้มีชื่อว่า Transition มาพร้อม 2 ที่นั่ง 4 ล้อ และปีกซึ่งสามารถพับได้ ตัวเครื่องสามารถใช้ขับขี่บนท้องถนนได้ปกติ ขณะเดียวกันก็สามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความสูง 1,400 ฟุตในเวลา 8 นาที (จากการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา) เทียบกับเครื่องบินพาณิชย์ที่บินในระดับความสูง 35,000 ฟุต

คลิปวิดีโอข้างบนนี้ถูกเปิดตัวตั้งแต่ปี 2010 หลังผ่านไป 2 ปี ข้อมูลล่าสุดคือรถบินได้คันนี้ถูกจับจองด้วยเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 300,000 บาท) จากผู้สนใจ 100 รายเพื่อสิทธิ์ซื้อ Transition ก่อนใคร คาดว่าตัวเลขลูกค้าของรถบินได้จะเพิ่มจำนวนขึ้นหากบริษัท Terrafugia เริ่มเปิดตัว Transition ต่อสาธารณชนในงาน New York Auto Show ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ สนนราคาของรถบินได้นี้คือ 279,000 เหรียญ หรือประมาณ 8.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รถบินได้รุ่นนี้ไม่ถูกมองว่าจะสามารถช่วยให้ผู้ใช้พ้นจากสถานการณ์จราจรติดขัด เพราะตัวรถยังต้องการรันเวย์เพื่อบินขึ้น ประวัติศาสตร์ความพยายามพัฒนารถบินได้นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ยุค 1930 โดย Robert Mann นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบินนั้นมองว่า Terrafugia เป็นผู้พัฒนาที่มาใกล้ความจริงมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็มีส่วนช่วยเหลือโครงการนี้ด้วยการอนุมัติคำขอของบริษัทในการใช้กระจกพิเศษซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ากระจกในรถยนต์ปกติ รวมถึงการสร้างความมั่นใจด้วยการตรวจสอบระบบชิ้นส่วนรถที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้มีน้ำหนักเบากว่าเดิมโดยละเอียด Transition สามารถเดินทางด้วยความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงบนถนน และ 115 ไมล์ต่อชั่วโมงบนอากาศ แหล่งพลังงานที่มช้คือน้ำมันรถยนต์ 23 แกลลอนแทงค์ ซึ่งการเดินทางบนอากาศจะผลาญพลังงาน 5 แกลลอนต่อชั่วโมง สำหรับภาคพื้นดิน จะใช้น้ำมัน 35 ไมล์ต่อแกลลอน อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลว่ารถบินได้จะยังไม่สามารถสร้างกระแสให้ผู้บริโภคได้ เพราะปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงทั่วโลก

Company Related Link : Terrafugia

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2555 10:00 น.