วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทุกเรื่องที่ควรรู้ “Axis” เว็บเบราว์เซอร์ใหม่ล่าสุดจากยาฮู

กูเกิลไม่ใช่เสิร์ชเอนจินรายเดียวที่สร้างเว็บเบราว์เซอร์ให้ชาวเน็ตอีกต่อไป เพราะวันนี้ยาฮู (Yahoo) ได้เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเองแล้วในชื่อ “แอกซิส (Axis)”
     
       เว็บเบราว์เซอร์นั้นเป็นโปรแกรมเปิดเว็บไซต์ซึ่งชาวออนไลน์ทั่วโลกต้องใช้งาน สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ที่ยาฮูเปิดตัวใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการการันตีว่าสามารถทำงานได้แบบไร้รอยต่อกับอุปกรณ์ทั้งไอโฟน ไอแพด และคอมพิวเตอร์พีซี โดยยาฮูตั้งเป้าส่ง “กระแสผลเสิร์ช” หรือรายการเว็บที่ชาวเน็ตต้องการและเชื่อมต่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผลการค้นหาได้ไม่ว่าจะใช้งานอุปกรณ์ใดอยู่
     
       ในวิดีโอสาธิตการทำงานของแอกซิส พบว่ายาฮูพยายามทลายขั้นตอนการเสิร์ชหรือค้นหาเว็บไซต์แบบดั้งเดิม โดยยาฮูต้องการข้ามขั้นตอนที่ชาวเน็ตต้องไล่สายตาอ่านลิงก์เว็บไซต์ ด้วยการแสดงภาพ “เว็บไซต์ที่มีแนวโน้มว่าผู้ใช้กำลังมองหา”ขึ้นมาแสดงแทน ซึ่งหากเพจที่พบยังไม่ตรงใจ ก็สามารถเสิร์ชได้ใหม่อีกครั้งโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องออกจากหน้าเว็บที่เปิดอยู่
     
       หากใช้งานบนอุปกรณ์ไอโอเอส (IOS) ของแอปเปิล เช่น ไอโฟน ไอแพด และไอพอด ผู้ใช้จะได้เห็นแถบ Axis Bar ซึ่งยาฮูใส่กล่องสำหรับกรอกคีย์เวิร์ดเพื่อค้นหา (search box) และช่องสำหรับกรอกชื่อเว็บไซต์ (address bar) ลงไปเป็นส่วนประกอบหลัก เพียงแตะแถบนี้ รายการค้นหายอดนิยมหรือ trending search จะปรากฏขึ้น ซึ่งหากเป็นหัวข้อน่าสนใจ ผู้ใช้จะสามารถแตะอีกครั้งเพื่ออ่านรายละเอียด ขณะเดียวกันก็สามารถกรอกคีย์เวิร์ดใหม่เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ รวมถึงการใส่ชื่อเว็บแอดเดรสเพื่อเปิดเว็บไซต์ได้ตามธรรมเนียมของเว็บเบราว์เซอร์ทั่วไป
     
       จากการสาธิตพบว่า ผลการค้นหาจะสามารถปรากฏแบบอัตโนมัติหากข้อมูลที่ค้นหานั้นเป็นข้อมูลแบบทั่วไป เช่น ตารางฉายภาพยนตร์ หรือรายงานสภาพอากาศ ทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องปิดเพจที่ตัวเองอ่านอยู่


หากเป็นการค้นหาข้อมูลเฉพาะทาง แอกซิสจะสร้างส่วนพรีวิวหน้าเว็บไซต์ที่ตรงกับคีย์เวิร์ดที่ต้องการ ผู้ใช้จะสามารถเลื่อนและเลือกหน้าเว็บที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย

ความพิเศษของแอกซิสยังอยู่ที่หน้าหลักหรือ homepage ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่เข้าบ่อยได้แบบไร้รอยต่อบนอุปกรณ์ไอโอเอสและคอมพิวเตอร์พีซี ทำให้เว็บไซต์ที่ผู้ใช้ไอแพดเปิดบ่อยจะสามารถปรากฏบนไอโฟนได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์พีซีที่บ้าน รวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีแอกซิสเป็นเว็บเบราว์เซอร์
     
       ความสามารถแบบไร้รอยต่อนี้ทำให้การค้นหา 1 ครั้งเกิดขึ้นบนหลายอุปกรณ์ได้ โดยผู้ใช้สามารถกดปุ่ม “Continue from iPhone” ที่ปรากฏบนไอแพด เพื่อชมผลการค้นหาที่เคยเริ่มไว้บนไอโฟน วิธีนี้จะทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายเพราะได้ค้นหาบนอุปกรณ์หน้าจอใหญ่กว่าอย่างต่อเนื่อง
     
       สำหรับบนคอมพิวเตอร์พีซี แอกซิสจะเป็นโปรแกรมเสริมหรือ plug-in ที่ทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์ดั้งเดิม ไม่ได้เป็นเว็บเบราว์เซอร์แบบสมบูรณ์ครบที่สามารถทำงานได้แบบฉายเดี่ยว (stand-alone) จุดนี้ยาฮูระบุว่าแอกซิสจะสามารถทำงานร่วมกับโครม (Chrome), ไฟร์ฟอกซ์ (Firefox), ไออี (IE) และซาฟารี (Safari) โดยจะมีเมนูเครื่องมือแอกซิสปรากฏที่ด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและดูภาพเพจที่พบได้บนหน้าจอเดิมลักษณะเดียวกับที่เห็นบนอุปกรณ์ไอโอเอส
     
       เว็บไซต์ที่เปิดบ่อยบนไอโฟนและไอแพดจะปรากฏบนโฮมเพจบนเบราว์เซอร์ได้เมื่อกดปุ่มบนแถบเครื่องมือแอกซิสซึ่งติดตั้งในเครื่องพีซี ทั้งหมดนี้ยาฮูเปิดให้บริการแอกซิสแล้วที่ iTunes และเว็บไซต์ http://axis.yahoo.com/ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
     
       คลิกชมวิดีโอ 3 ชิ้นด้านล่างเพื่อความเข้าใจในแอกซิสเพิ่มขึ้น โดยวิดีโอแรกแสดงแนวคิดการทำงานโดยรวมของแอกซิส วิดีโอชิ้นที่สองสาธิตการทำงานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และชิ้นที่บนไอโฟน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2555 11:40 น.

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ไอบีเอ็มจัดเต็มระบบคลาวด์องค์กรไซส์กลาง

ไอบีเอ็มต่อยอดแนวคิดสมาร์ทเตอร์คอมพิวเตอร์ ส่งโปรดักต์ใหม่ “ไอบีเอ็ม เพียวซิสเต็มส์” แพกคลาวด์คอมพิวติ้งไว้ในตู้เดียว เน้นความง่ายและประหยัด มุ่งเจาะตลาดองค์กรขนาดกลาง ประหยัดงบได้มากกว่า 50%
      
       นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ทางไอบีเอ็มประเทศไทยพร้อมที่จะนำเสนอระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Expert integrated system ภายใต้ชื่อ ไอบีเอ็ม เพียวซิสเต็มส์ ในประเทศไทย ซึ่งทางไอบีเอ็มมองว่าระบบนี้จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 500 คนขึ้นไปจนถึงเกือบหมื่นคนที่มองการลงทุนระบบไอทีขององค์กรที่จะก้าวไปสู่คลาวด์ภายในองค์กร หรือในอนาคตจะก้าวสู่คลาวด์สาธารณะ โดยเพียวซิสเต็มส์นี้สามารถช่วยให้การบริหารจัดการระบบไอทีที่ยุ่งยากซับซ้อนให้ง่ายและประหยัดทรัพยากรการจัดการไอทีภายในองค์กรได้อย่างมหาศาล
      
       จากข้อมูลไอดีซีระบุว่า องค์กรขนาดกลางต้องใช้งบประมาณทางด้านไอทีถึง 70% ในการดำเนินงานและบำรุงรักษาระบบ ทำให้แหลือเงินเพียงเล็กน้อยประมาณ 1 ใน 5 ของงบประมาณสำหรับใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือนำนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านไอที
      
       ทั้งนี้ ไอบีเอ็มใช้เวลา 4 ปี หมดงบประมาณไปกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการวิจัยและพัฒนา และยังใช้ทีมวิศวกรทั้งหมดกว่าพันคนที่ทำงานในห้องทดลอง 17 แห่งจาก 37 ประเทศทั่วโลก เพื่อพัฒนาระบบ Expert integrated system ขึ้นมา ที่เป็นการออกแบบสเกลอินใหม่ที่รวมเซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูล เครือข่าย และความเชี่ยวชาญไว้ภายในตัว เพียวซิสเต็มส์นั้นแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวิวัฒนาการระบบคอมพิวเตอร์ โดยการเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ให้เกี่ยวโยงกันมากขึ้น
      
       นายธนพงษ์กล่าวอีกว่า การออกแบบสเกลอินของเพียวซิสเต็มส์เป็นการผสานรวมและการออปติไมซ์องค์ประกอบสำคัญทั้งหมดที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูลในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่าย หน่วยเก็บข้อมูล การคำนวณ การบริหารจัดการระบบ ฯลฯ และจัดเตรียมระบบการจัดการแบบมุมมองเดียว ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบที่สามารถตั้งค่าได้ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและอัปเกรด
      
       “เพียวซิสเต็มส์เพียงชุดเดียวสามารถตั้งค่าและรันได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ใน 3 เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่นของไอบีเอ็ม เมื่อเปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์เบลดรุ่นก่อนหน้านี้ เพียวซิสเต็มส์สามารถปรับสเกลรีซอร์สการคำนวณระบบเครือข่ายและหน่วยเก็บข้อมูลได้โดยอัตโนมัติและรวดเร็ว”
      
       ไอบีเอ็ม เพียวซิสเต็มส์ ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีด้วยกัน 2 โมเดล ประกอบไปด้วย IBM PureFlex และ IBM PureApplication โดย IBM PureFlex เป็นซิสเต็มส์ที่รวมโครงสร้างพื้นฐานระบบไอทีไว้เสร็จสรรพ ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ เน็ตเวิร์ก ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ และซอฟต์แวร์ด้านเวอร์ชวลไลเซชัน สามารถนำไปติดตั้งแอปพลิเคชันทางธุรกิจได้ทันที
      
       ส่วน IBM PureApplication จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ออกแบบมาสำหรับติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ ด้วยการนำเสนอการขายด้วยพาร์ตนัมเบอร์เดียว และยังได้เพิ่มความพิเศษสุดตรงความสามารถของซอฟต์แวร์ใหม่ที่เรียกว่า รูปแบบของความเชี่ยวชาญ (Pattern of Expertise) รูปแบบดังกล่าวรวมความรู้และทักษะการดำเนินงานและความเชี่ยวชาญอุตสาหกรรมเข้าไว้ในระบบโดยตรง เพื่อทำให้ภารกิจด้านไอทีและอุตสาหกรรมทั่วไปหลายประเภทกลายเป็นระบบอัตโนมัติ และสามารถลดเวลาและรีซอร์สที่จำเป็นต้องใช้สำหรับภารกิจพื้นฐานและภารกิจที่ซับซ้อน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการนำไปใช้ ขณะนี้สามารถนำไปใช้ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
      
       พร้อมกันนี้ ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว เพียวซิสเต็มส์ เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแอปลิเคชันเอนเตอร์ไพรส์สำหรับเพียวซิสเต็มส์โดยเฉพาะผ่านทางออนไลน์ ซึ่งมีตั้งแต่แอปพลิเคชันทั่วไป และแอปพลิเคชันเฉพาะอุตสาหกรรมมากกว่า 150 รายการ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันสำหรับธนาคาร อุตสาหกรรมสินค้าสำหรับผู้บริโภค ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โซลูชันต่างๆ จนถึงการให้บริการไอทีเซอร์วิสที่ออกแบบเพื่อตอบสนองธุรกิจช่วยให้ค้นหารูปแบบที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
      
       นายธนพงษ์กล่าวว่า เนื่องจากไอบีเอ็ม เพียวซิสเต็มส์ ถูกสร้างขึ้นมาบนแนวคิดสำหรับองค์กรขนาดกลางที่ต้องการก้าวสู่ไพรเวตคลาวด์ แต่ยังขาดความพร้อมทางด้านบุคลากร รวมถึงงบประมาณที่จำกัด ด้วยความง่ายและคล่องตัวที่ไม่ต้องมองหาอุปกรณ์อื่นๆ มาสร้างระบบไพรเวตคลาวด์ขึ้นมาเอง เพราะไอบีเอ็มได้ทำการอินทิเกรตอุปกรณ์เหล่านั้นมาให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานของระบบไอทีองค์กร ทุกอย่างพร้อมทำงานด้วยเพียงการคลิกแค่ 4 คลิกเท่านั้น
      
       ในการทำตลาด ไอบีเอ็มได้วางตำแหน่งของเพียวซิสเต็มส์ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกสำหรับลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการคลาวด์สาธารณะ และผู้พัฒนาระบบคลาวด์ในองค์กร กลุ่มที่ 2 องค์กรที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็มเข้าไปทำงานร่วมกับสภาพแวดล้อมทางไอทีที่มีความหลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เช่น องค์กรทางด้านโทรคมนาคม และธนาคาร และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มลูกค้าเดิมของไอบีเอ็มที่ต้องการต่อยอดการใช้งานทางด้านตลาดคลาวด์คอมพิวติ้งมากขึ้น
      
        “ระบบเริ่มต้นของเพียวซิสเต็มส์ เริ่มตั้งแต่ราคา 5-10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับคอนฟิกแต่ละบริษัท”
      
       นายธนพงษ์ยอมรับว่า ตลาดของเพียวซิสเต็มส์ถือเป็นตลาดใหม่ แตกต่างจากการลงทุนระบบไอทีแบบเดิมๆ ที่ใช้งบประมาณสูง แต่สำหรับเพียวซิสเต็มส์ถ้าเป็น IBM PureFlex สามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 50% ขณะที่ IBM PureApplication กลับสูงกว่าประมาณ 70%
      
       Company Relate Link :
       IBM Pure Systems


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2555 06:38 น.

Chrome เขี่ย IE นั่งแชมป์เว็บเบราว์เซอร์โลก 1 สัปดาห์

       ผลสำรวจตลาดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโลกชิ้นล่าสุด พบว่าโปรแกรมเปิดเว็บไซต์หรือเว็บเบราว์เซอร์ของกูเกิลอย่างโครม (Chrome) นั้นสามารถแซงหน้าไออีหรือ Internet Explorer ของไมโครซอฟท์ไปได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ส่งให้โครมกลายเป็นประตูที่ชาวออนไลน์ใช้เปิดเว็บไซต์มากที่สุดในโลกช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
      
       แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ แต่การแซงหน้าของสัดส่วนผู้ใช้โครมที่สูงกว่าไออีนั้นถูกบันทึกว่าเป็นครั้งแรกที่ไออีถูกแซงหน้าในรอบ 10 กว่าปีที่ไออีครองแชมป์เบราว์เซอร์โลก โดยการสำรวจจากบริษัทวิจัย StatCounter พบว่า ในช่วงที่โครมถูกใช้งานมากที่สุด สัดส่วนผู้ใช้โครมคือ 31.88% จากปริมาณเว็บทราฟฟิกหรือการเรียกใช้งานเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก สูงกว่าไออีที่มีสัดส่วนการใช้งาน 31.47%
      
       อีกแนวโน้มที่น่าสนใจ คือแนวโน้มจากกราฟแสดงปริมาณผู้ใช้โครมนั้นสะท้อนว่าโครมกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ผิดจากไออีที่มีทิศทางกราฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์ที่ต้องการเวลาพิสูจน์
      
       อย่างไรก็ตาม การแซงหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถาวร และไออีสามารถตีเสมอขึ้นมาได้สำเร็จ จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่าเพราะไออียังมีฐานผู้ใช้ที่มั่นคงในหลายภูมิภาค ซึ่งล้วนเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่น เช่น อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ รวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บนโลกอุตสาหกรรมไอทีอย่างอินเดีย
      
       ที่สำคัญ ไออียังคงมีไม้ตายที่การเป็น “default web browser” ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยในเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 90% ในโลกคอมพิวเตอร์ ทำให้ไออียังสามารถครองตลาดผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญด้านเทคโนโลยีได้อย่างเหนียวแน่น เพราะผู้ใช้เหล่านี้มักไม่ดาวน์โหลดเบราว์เซอร์อื่นมาใช้งานแทน
      
       สำหรับจุดเด่นที่ทำให้โครมสามารถทำคะแนนนิยมเหนือไออี เชื่อว่าเป็นเพราะรูปแบบการใช้งานที่สะดวกและเรียบง่าย แถมยังสามารถทำความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ได้ดี ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามปรับปรุงให้ไออีรุ่นใหม่สามารถทำงานได้ดีและปลอดภัยกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดจะรวมอยู่ใน Internet Explorer 10 ที่ไมโครซอฟท์จะแจ้งเกิดด้วยการพ่วงไปกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 เพื่อวางจำหน่ายในปีนี้
      
       Company Related Link :
       Chrome


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2555 09:57 น.