flare คือแถบหรือแนวจุดสว่างที่ปรากฏบนภาพถ่าย สาเหตุการเกิด flare คือแสงจากแหล่งกำเนิด เช่น ดวงอาทิตย์หรือหลอดไฟฟ้า ส่องกระทบเข้าหน้าเลนส์ในมุมที่เหมาะสม แล้วสะท้อนกับผิวแก้วชิ้นเลนส์หรือวัตถุอื่นๆ ที่อยู่ในเลนส์ ไปตกลงบนอุปกรณ์รับภาพ เรื่องนี้ตากล้องมืออาชีพทั่วโลกรู้กันดีว่า flare สามารถบรรเทาได้ด้วยการสวมหน้ากากกันแสงหน้าเลนส์หรือฮูด (hood) ให้กล้อง ซึ่งขณะนี้ชาวออนไลน์กำลังล้อเลียนว่าผู้ใช้ iPhone 5 อาจต้องใช้ฮูดหากต้องการถ่ายภาพ
ปัญหา flare สีม่วงในภาพจากกล้องไอโฟน 5 นั้นแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากไอโฟน 5 เริ่มจำหน่ายช่วงเดือนกันยายน เจ้าของเครื่องหลายรายพร้อมใจร้องเรียนว่าพบ Flare สีม่วงเกิดขึ้นในภาพถ่ายมากมาย มีการนำภาพถ่ายมุมเดียวกันของไอโฟน 4S มาเปรียบเทียบก็พบว่าไม่เป็นปัญหาใด
เรื่องนี้ตัวแทน AppleCare ศูนย์ดูแลลูกค้าหลังการขายของแอปเปิลส่งอีเมลชี้แจงผู้ใช้ที่ร้องเรียนต่อแอปเปิลเป็นลายลักษณ์อักษรว่า flare สีม่วงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติของกล้องดิจิตอลในอุปกรณ์ใดๆ โดยอ้างข้อมูลจากทีมวิศวกรแอปเปิล แนะนำให้ผู้ใช้ถือไอโฟน 5 โดยหันกล้องออกจากแหล่งกำเนิดแสงขณะถ่ายภาพ
ขณะนี้แอปเปิลตอกย้ำคำตอบเดิมด้วยการออกแถลงการณ์แนะนำผู้ใช้ไอโฟน 5 อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าการหันกล้องออกจากแหล่งกำเนิดแสงนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ไอโฟนทุกรุ่น รวมถึงผู้ใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งกล้องดิจิตอลขนาดเล็กควรทำ
“กล้องดิจิตอลขนาดเล็กส่วนใหญ่ซึ่งติดตั้งในไอโฟนทุกรุ่นนั้นมีโอกาสเกิด flare เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพใกล้แหล่งกำเนิดแสง การเปลี่ยนตำแหน่งกล้องเพื่อให้องศาของแสงเปลี่ยนมุมไป จะช่วยลดหรือกำจัดปัญหา flare ได้”
การตอบปัญหาลักษณะนี้ถือเป็นแนวทางเดียวกับหลายปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ไอโฟน ก่อนหน้านี้ ฟิล สคิลเลอร์ (Phil Schiller) รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของแอปเปิลเคยเป็นข่าวเมื่อครั้งส่งอีเมลตอบปัญหาไอโฟน 5 มีรอยขูดขีดและถลอกง่าย
ผู้ใช้ไอโฟน 5 สีดำหลายรายระบุว่าพบปัญหาสีดำที่เคลือบบนฝาอะลูมิเนียมของไอโฟน 5 หลุดถลอกออกจนเห็นสีเงินตามแนวขูดขีด ผู้บริหารแอปเปิลรายนี้ได้ชี้แจงว่าสินค้าอะลูมิเนียมทุกชนิดล้วนมีโอกาสเกิดรอยถลอกจนเห็นผิวสีเงินของอะลูมิเนียมเนื้อใน ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติของการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม คำตอบลักษณะนี้กลับทำให้รอยบาปของแอปเปิลกรณีปัญหาเสาสัญญาณในไอโฟน 4 ถูกนำมาวิจารณ์อีกครั้ง เพราะครั้งนั้นแอปเปิลยืนยันว่าผู้ใช้ถือจับเครื่องอย่างผิดวิธีเอง โดยโยนบาปว่าผู้ใช้ไม่ควรถือจับโทรศัพท์โดยนำอุ้งมือไปปิดบังบริเวณมุมขวาของเครื่อง ซึ่งจะทำให้เสาสัญญาณที่ติดตั้งในบริเวณนั้นไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร
คำตอบในครั้งนั้นถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนแอปเปิลต้องออกแถลงการณ์รับผิดและยอมเปลี่ยนแปลงตำแหน่งติดตั้งเสาสัญญาณในเครื่องใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่ถนัดทั้งซ้ายและขวาสามารถถือจับเครื่องได้ตามถนัด
สำหรับความคืบหน้าของไอโฟน 5 ในช่วงก่อนหน้านี้ คือคู่แข่งสัญชาติเกาหลีอย่างซัมซุง (Samsung) แสดงท่าทีพร้อมโจมตีไอโฟน 5 โดยลงมือเพิ่มชื่อไอโฟนรุ่นล่าสุดลงในสำนวนฟ้องคดีสิทธิบัตรซึ่งซัมซุงยังมีคดีความค้างกับแอปเปิลในชั้นศาลหลายประเทศ ทั้งหมดนี้ซัมซุงระบุว่าเป็นการตัดสินใจเพื่อปกป้องนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ซึ่งคาดว่าซัมซุงอาจฟ้องร้องว่าไอโฟน 5 ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีเครือข่าย LTE
Company Related Link :
Apple
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 8 ตุลาคม 2555 12:20 น. |
|