หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่า มูลค่าเงิน 1,500 ล้านเหรียญที่เอชพีเตรียมไว้ในการซื้อ ArcSight นั้นคำนวณไว้สูงกว่ามูลค่าตลาด ArcSight ซึ่งอยู่ที่ราว 1,210 ล้านเหรียญเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวนี้สร้างความฮือฮาให้กับวงการไอทีอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ เอชพีนั้นประกาศซื้อบริษัทน้อยใหญ่หลากประเภทอย่างต่อเนื่อง เช่นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่างปาล์ม ผู้ให้บริการงานไอที บริษัทผู้ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์เครือข่าย ทั้งหมดล้วนไม่อยู่ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งมีสัดส่วนกำไรต่ำ โดยล่าสุด เอชพีสามารถเอาชนะเดลล์ในการประมูลเพื่อซื้อบริษัท 3Par ผู้พัฒนาระบบเก็บข้อมูลสำหรับองค์กรด้วยเงิน 2,350 ล้านเหรียญ สูงกว่ามูลค่าหุ้น 9.65 เหรียญของ 3Par ถึง 3 เท่าตัว
นักวิเคราะห์นั้นมองว่า การประกาศซื้อกิจการของเอชพีนั้นแสดงให้เห็นถึงการเน้นใช้เงินสดในการบริหารงาน สาเหตุหลักคือเพราะเอชพีมองว่าธุรกิจหลักที่เอชพีจับอยู่นั้นอาจไม่สามารถรักษาการเติบโตได้ยั่งยืนในอนาคต สำหรับ ArcSight นักวิเคราะห์เชื่อว่า เอชพีจะสามารถสร้างจุดขายในการให้บริการศูนย์กลางข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับ ArcSight นั้นเป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 1,000 รายในสหรัฐฯ ผลกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาคิดเป็น 28.4 ล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วนเติบโตขึ้น 3 เท่าตัว เฉพาะยอดขายนั้นทะลุหลัก 181.4 ล้านเหรียญ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตได้เป็นอย่างดี
เอชพีไม่ใช่บริษัทเดียวที่สนใจในบริษัทซีเคียวริตี้ โดยก่อนหน้านี้ อินเทล (Intel) ก็ประกาศเทเงิน 7,680 ล้านเหรียญเพื่อซื้อ McAfee ผู้ผลิตโปรแกรมแอนตี้ไวรัสชื่อดังในมูลค่าหุ้นที่สูงกว่าตลาดถึง 60% ซึ่งอินเทลก็เชื่อว่า McAfee จะทำให้อินเทลมีจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งได้
หลังข่าวลือถูกประกาศไป มูลค่าหุ้น ArcSight พุ่งขึ้นสวนทางกับมูลค่าหุ้นเอชพี ที่ตกลงต่อเนื่องนับตั้งแต่การลาตำแหน่งของซีอีโอเอชพี
Company Related Link :
HP
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2553 17:45 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น