Stephen Smith รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจเครื่องลูกข่ายส่วนบุคคลของอินเทล ระบุว่าอินเทลพัฒนา Sandy Bridge ตามทิศทางพัฒนาการของเครื่องลูกข่ายในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าคอมพิวเตอร์พกพานั้นมีบทบาทมากกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทำให้ Sandy Bridge เน้นตอบโจทย์ความสามารถด้านการใช้งานขณะเคลื่อนที่ ซึ่งจะมีจุดแข็งเรื่องการประหยัดพลังงานเต็มขั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อินเทลออกแบบให้ Sandy Bridge ใช้เทคโนโลยีการผลิต 32 นาโนเมตร โดยชิปตระกูล Sandy Bridge รุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายนั้นจะมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Second Generation Intel Core ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า (2011) อินเทลย้ำว่าจะเป็นชิปที่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์พกพา คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เซิร์ฟเวอร์ และเวิร์กสเตชัน
จุดแตกต่างสำคัญของ Sandy Bridge เมื่อเทียบกับชิปตระกูล Core i Series ที่อินเทลทำการตลาดในปัจจุบัน คือการออกแบบคอร์ประมวลผล CPU และส่วนประมวลผลกราฟิก GPU เพราะ Core i Series นั้นใช้ชิปหลายชิ้นประกอบกัน แต่ Sandy Bridge นั้นออกแบบให้ CPU และ GPU นั้นอยู่บนชิปแผ่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เทคโนโลยีเปิดปิดคอร์ประมวลผลอัตโนมัติตามการใช้งาน "Intel Turbo Boost" ซึ่งอินเทลใช้เป็นจุดขายใน Core i Series จะสามารถทำงานบน GPU ได้ด้วย แทนที่จะทำงานบน CPU อย่างเดียวเช่นในปัจจุบัน
"ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้กำลังเล่นเกม ระบบก็จะเทพลังงานไปให้การประมวลผลกราฟิกมากขึ้น แต่หากผู้ใช้จะประมวลผลภาพ 3D ระบบก็จะเทพลังงานไปที่คอร์ประมวลผลมากกว่า ทั้งหมดนี้ชัดเจนว่าการประมวลผลภาพกราฟิกในเทคโนโลยี 32 นาโนเมตรจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า"
นักวิเคราะห์เห็นด้วยกับผู้บริหารอินเทล โดยมองว่า Sandy Bridge จะสามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่า Core i Series และแม้อินเทลจะยังไม่ยืนยันตัวเลขประสิทธิภาพที่แน่นอนของ Sandy Bridge แต่เชื่อว่าชิปใหม่จะมีความเร็วเหนือกว่า Core i Series โดยในช่วงแรก อินเทลจะวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น 4 คอร์ที่สามารถทำงานได้ 8 โพรเซสพร้อมกันสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป หลังจากนั้นจึงจะออกรุ่น 6 และ 8 คอร์สำหรับตลาดระดับบน
อินเทลแย้มว่ามีแผนพัฒนา Sandy Bridge รุ่นใหม่เทคโนโลยี 22 นาโนเมตรในชื่อรหัส "Ivy Bridge" ช่วงปี 2012 จุดนี้ Paul Otellini ซีอีโออินเทลระบุว่า Ivy Bridge นั้นกำลังรอคิวสู่การผลิตจริงในโรงงานแล้ว
งานนี้ซีอีโออินเทลให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการซื้อบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตีไวรัส McAfee และแผนกผลิตชิปเทคโนโลยีไร้สายจากบริษัท Infineon Tecnologies ว่าจะเป็นการยกระดับการปกป้องผู้ใช้งานอินเทลอีกขั้น ซึ่งจะมีผลอย่างมากในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ ทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขยายตลาดใหม่ หลังจากปัจจุบัน อินเทลสามารถครองส่วนแบ่งตลาดหน่วยประมวลผลบนคอมพิวเตอร์พีซีได้มากกว่า 80% ทั่วโลก
Company Related Link :
Intel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น